หลักคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการตามหลักอิสลาม


หลักคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ
1.ขยัน
สูเจ้าจงอดทน ดั่งที่ผู้อดทนแห่งรอซู้ลทั้งหลายได้อดทนแล้วก่อนหน้านั้น (64/35)
“จงประกอบกิจเพื่อโลกนี้ประดุจดังท่านจะมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์และจงประกอบกิจเพื่อโลกหน้าประหนึ่งว่าท่านจะตายในวันพรุ่งนี้ (อิบนุชากิร) ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบและทุกคนจะถูกไต่สวนในหน้าที่ของตน” (บุคอรีและมุสลิม)
2. ประหยัด
“และบรรดาเมื่อเขาทั้งหลายใช้จ่าย พวกเขาก็ไม่สุรุ่ยสุร่ายและไม่ตระหนี่และได้มีทางอันเที่ยงธรรมในระหว่าง (คือทางสายกลาง)” อัลกุรอาน (25/67)
“จงกินตามใจชอบและจงนุ่งห่มตามใจชอบตราบเท่าที่ห่างจากทั้งสองนี้คือการฟุ่มเฟือยและการเย่อหยิ่ง
จองหอง” (รายงานโดยบุคอรีย์)
3. ซื่อสัตย์
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์และจงอยู่กับผู้สัตย์จริง” อัลกุรอาน (9/119)
“แท้จริงความซื่อสัตย์นั้นจะนำพาไปสู่ความดดี และแท้จริงความดีจะนำพาสู่สวรรค์” อัลหะดิษ
4. มีวินัย
“และจงปฏิบัติตามสัญญาของอัลลอฮ์ให้ครบถ้วนเมื่อสูเจ้าได้สัญญา” อัลกุรอาน (16/91)
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลายจงอย่าแตกแยกกันเพราะประชาชาติก่อน ๆ นั้นเขาแตกแยกกันพวกเขาจึงวิบัติ”
“แน่แท้การอิจฉาริษยานั้นทำลายความดีงามต่าง ๆ ดุจดังกองไฟที่เผาผลาญเชื้อเพลิง”
(รายงานโดยอบูดาวูด)
“ผู้ศรัทธาที่ยอดเยี่ยมคือผู้ที่มีมารยาทดี” (รายงานโดยอบูดาวูด)
5. สุภาพ
และด้วยพระเมตตาจากอัลลอฮ์เจ้า (มูฮัมมัด) จงสุภาพอ่อนโยนต่อพวกเขาและมาดแม้นเจ้าเป็นผู้หยาบกระด้าง อีกทั้งมีหัวใจอันกักขฬะแน่นอนที่สุด พวกเขาก็ต้องเตลิดออกไปจากรอบ ๆ เจ้า (3/159)
ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า “แท้จริงความเอ็นดูเมตตาหากมีอยู่ในสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมสวยงามและหากสิ่งนั้นปราศจากซึ่งความเอ็นดูเมตตามันย่อมน่าเกลียด” (รายงานโดยมุสลิและอบูดาวุด)
ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า”ผู้ใดไร้ซึ่งความอ่อนโยน เมตตา ผู้นั้นก็จะไม่ได้รับความดีทั้งมวล” (รายงานโดยอิมามมุสลิม)
6. สะอาด
แน่แท้อัลลอฮ์ทรงรักบรรดาผู้สารภาพโทษและทรงรักบรรดาผู้มีความสะอาด (ทั้งภายนอกและภายใน) (2/222) ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า”การแปรงฟันนั้นเป็นการทำความสะอาดปากและเป็นทางให้ได้รับความโปรดปรานของพระผู้อภิบาล “(รายงานโดยอะห์หมัด)
ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า “ผู้ใดมีผมก็จงให้เกียรติต่อมัน” (รายงานโดยอบูดาวุด)
ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวว่า “ถ้าเป็นไปตามธรรมชาตินั้น 5 สิ่งหรือมีอยู่ 5 สิ่งตามธรรมชาติ คือการขลิบหนังปลายอวัยวะเพหศ การโกนขนลับ การถอนขนรักแร้ การตัดเล็บและการขลิบหนวด” (รายงานโดย
บุคอรีย์)

7. สามัคคี
“ความดีนั้นไม่เท่าเทียมกันและความชั่วนั้นก็ไม่หาเท่าเทียมกันไม่ ท่านจงผลักความชั่วด้วยการทำดี (เช่นผลักความโกรธด้วยการอดทน ความผิดด้วยการให้อภัยและความฉลาดน้อยด้วยความนิ่มนวลแล้วศัตรูจะกลายเป็นมิตร และจะไม่ประสบกับความดีได้ นอกจากบรรดาผู้มีความอดทนและจะไม่ประสบความดีได้นอกจากผู้มีบุญวาสนาอันยิ่งใหญ่ ((41/34-35) (จากการทำดีและมีจิตใจที่สมบูรณ์และผลบุญอันมากมาย)

8.มีน้ำใจ
บรรดาผู้บริจาคทรัพย์ของพวกเขาเวลากลางคืนและกลางวัน โดยซ่อนเร้นและโดยเปิดเผย ดังนั้นสำหรับพวกเขาคือรางวัลของพวกเขาที่พระผู้อภิบาลของพวกเขา และจะไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ แก่พวกเขาและพวกเขาจะไม่เสียใจ (2/274) เจ้าจงยึดการอโหสิและจงใช้ให้ทำแต่ความดีและจงหันออกจากการกระทำของพวกโง่เขลา (7/199)
“ทุก ๆส่วนของมนุษย์ต้องปฏิบัติกุศลทานทุกวันตั้งแต่ตะวันขึ้น (คือ) การตัดสินความให้คนสองคนเป็นกุศลทาน การช่วยยกของเป็นกุศลทาน การพูดที่ดีเป็นกุศลทาน ทุกก้าวที่ย่างไปนมาซเป็นกุศลทาน การหยิบยกสิ่งกีดขวางหรืออันตรายออกจากถนนหนทางเป็นกุศลทาน”(รายงานโดยบุคอรีย์)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แผนการจัดการเรียนรู้อิสลามศึกษา ชั้น ป.1